โรงแรม 30 Bencoolen เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว ตั้งอยู่บนถนน Bencoolen ซึ่งเป็นย่านใจกลางสิงคโปร์ เดิมโรงแรมนี้ชื่อ Bay View Hotel ภายใต้เชน Bayview International Hotels and Resorts ครับ ภายหลังมีการปรับปรุงใหม่ จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น 30 Bencoolen
การเดินทางจากท่าอากาศยานสิงคโปร์ชางงี (SIN) มายังโรงแรมก็ค่อนข้างง่ายครับ เพราะรถไฟฟ้า MRT สถานี Bencoolen อยู่ใกล้กับโรงแรมเลยครับ ใช้เวลาประมาณ 45 นาที จากสถานี Changi Airport (CG2) ให้ขึ้นรถไฟฟ้าสายสีเขียว (สุดสายที่สถานี Tanah Merah) จากนั้นให้ลงที่สถานี Expo (CG1) แล้วเปลี่ยนไปสายสีน้ำเงิน (สุดสายที่สถานี Bukit Panjang) แล้วลงที่สถานี Bencoolen (DT21) โดยให้ใช้ทางออก A จากนั้นเลี้ยวซ้ายเดินตามถนนมาครู่เดียวก็ถึงโรงแรมแล้วครับ
ทำเลที่ตั้งของโรงแรมถือว่าดีมากครับ อย่างที่กล่าวไปแล้วว่ามีรถไฟฟ้า MRT สถานี Bencoolen อยู่บริเวณถนนหน้าโรงแรมเลย อีกทั้งด้านข้างโรงแรมก็มีร้านสะดวกซื้อ 7-ELEVEN (เปิด 24 ชั่วโมง) และเดินต่อมาอีกหน่อยที่ตึก Manulife Centre ชั้นล่างก็จะมี Food Republic (เปิด 08.00 น. – 22.00 น.) ซึ่งเป็นฟูดคอร์ทให้เลือกรับประทานอาหารกันได้ครับ หรือเดินต่อมาอีกเลี้ยวซ้ายที่หัวมุมถนน Bras Basah ก็จะมีร้านติ่น ไท่ ฟง (DIN TAI FUNG) ร้านติ่มซำชื่อดังจากไต้หวันให้บริการอยู่ที่อีกด้านของตึก Manulife Centre ครับ และข้าง ๆ ตึก Manulife Centre ก็จะพบรถไฟฟ้าอีกเส้นหนึ่งครับซึ่งเป็นสถานี Bras Basah นั่นเอง ใครจะเดินทางไปเที่ยวตามเส้นทางรถไฟ้าสาย Circle Line ก็เดินมาใช้บริการสถานีนี้ได้ครับ ไม่ไกลเลย
การเข้าพักครั้งนี้ ทำการจองผ่านเว็บไซต์ของโรงแรมโดยตรงครับ www.30bencoolen.com.sg เนื่องจากสมัครสมาชิกได้ฟรี แถมยังได้ส่วนลด 5% จากเรทปกติ รวมถึงบริการอาหารเช้าให้ฟรีอีกด้วยครับ
Hotel: 30 Bencoolen Singapore
Address: 30 Bencoolen Street, Singapore 189621
Phone: +65 6337 2882
Check in time: 14.00 hrs.
Check out time: 12.00 hrs.
Room Type: Deluxe Room, Twin
Rate Type: Room with Breakfast
Average price per night (Tax & Service Charge Incl.): 181 SGD
Stay Period: May 2018
Check-in
ทันทีที่เดินทางมาถึงโรงแรมก็สามารถเช็คอินได้ที่บริเวณล็อบบี้ชั้นล่างทันทีครับ การเช็คอินเป็นไปด้วยความรวดเร็ว พนักงานสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีครับ โดยพนักงานจะให้เราตรวจสอบรายละเอียดการจองของเราผ่าน iPad ที่อยู่ด้านข้างเคาน์เตอร์ แล้วเซ็นชื่อลงบนหน้าจอ iPad เลยครับ รวดเร็วและลดการสิ้นเปลืองกระดาษได้ดีเลย โรงแรมนี้มีการเรียกเก็บเงินประกันความเสียหายนะครับ ในอัตรา S$50 ต่อคืนต่อห้อง ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งบัตรเครดิตหรือเงินสดครับ หากวางเงินประกันด้วยเงินสด ก็จะได้รับเงินสดคืนทันทีที่เช็คเอาท์และไม่มีความเสียหายใด ๆ ครับ จากนั้นพนักงานก็อธิบายเกี่ยวกับการใช้ Wi-Fi ของโรงแรม
จากนั้นก็มีคุณลุงที่ทำหน้าที่เป็น bellboy ช่วยนำกระเป๋าสัมภาระของพวกเราขึ้นไปส่งที่ห้องพักครับ ลิฟต์ที่นี่เป็นแบบล็อคชั้นนะครับ ต้องนำคีย์การ์ดแตะที่ตัวอ่านการ์ดในลิฟต์ก่อน จึงจะสามารถกดลิฟต์ไปยังชั้นที่ห้องพักของเราอยู่ได้ครับ
Room
ห้องที่จองไว้เป็นห้อง Deluxe Twin ครับ โดยได้ห้องหมายเลข 912 ขนาด 23 ตารางเมตร อยู่บนชั้นที่ 9 ห้องที่ได้เป็นห้องมุมสุดทางเดินที่ให้ความเป็นส่วนตัวและค่อนข้างเงียบสงบดีทีเดียวครับ แต่ผนังห้องอาจจะไม่เก็บเสียงมากนักครับ เพราะได้ยินเสียงจากห้องข้าง ๆ อยู่บ้างเหมือนกัน
ห้องพักดูใหม่ ทันสมัย และสะอาดครับ ภายในห้องเป็นเตียงแฝดตามที่ได้จองไว้ ขนาดห้องอาจไม่ได้กว้างขวางมากนัก ซึ่งเป็นปกติสำหรับโรงแรมในสิงคโปร์ ก็แต่ก็ไม่อึดอัดครับ เมื่อเข้าห้องมาจาก walk-in closet ซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำครับ ถัดมาเป็นตู้วางชา กาแฟ แก้ว น้ำดื่ม 2 ขวด และกาต้มน้ำร้อนครับ ซึ่งฟรีและเติมให้ทุกวันครับ ชั้นบนของตู้เป็นไดร์เป่าผมใส่อยู่ในถุง และชั้นล่างของตู้เป็นตู้เย็นขนาดมินิบาร์ครับ แต่ไม่มีเครื่องดื่มใด ๆ ในตู้เลยครับ เราสามารถซื้อเครื่องดื่มมาแช่เองได้เลยครับ
ถัดเข้ามาข้างเตียงเป็นตู้เสื้อผ้า และมีตู้เซฟซ่อนอยู่ในลิ้นชักที่ส่วนล่างของตู้เสื้อผ้าครับ
สุดด้านในห้องจะเป็นหน้าต่างมองออกไปเป็นวิวตึกรอบ ๆ ครับ พร้อมกับโต๊ะนั่งทำงานซึ่งกว้างดีครับ ถูกใจสำหรับคนที่ต้องนั่งทำงานหน้าคอมอย่างผมมาก และที่มุมห้องเป็น LED TV ขนาดเหมาะสมดีครับ
ทีเด็ดของโรงแรมแห่งนี้คือ handy 4G smartphone เป็นสมาร์ทโฟน ตั้งอยู่บนโต๊ะทำงาน ให้แขกนำออกไปใช้นอกโรงแรมก็ได้ครับ ซึ่งสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ไม่จำกัด โทรฟรีในสิงคโปร์และอีก 6 ประเทศด้วยครับ รวมถึงมี City Guide แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ภายในเครื่อง และสามารถซื้อตั๋วเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ได้ครับ ทั้งนี้ตอนเช็คอินจะมีแบบฟอร์มให้เซ็นนะครับ ว่าถ้าอุปกรณ์สมาร์ทโฟนเสียหาย แขกจะต้องรับผิดชอบค่าเสียหายด้วยครับ แต่โดยส่วนตัวเช่า Pocket Wi-Fi ไปใช้เอง เลยไม่ได้นำสมาร์ทโฟนของโรงแรมออกไปใช้งานจริงสักเท่าไรครับ
โรงแรมนี้เขามี Whatsapp ให้แขกติดต่อกับทางโรงแรมด้วยนะครับ สอบถามการจอง หรืออยากสอบถามข้อมูลระหว่างที่อยู่ในสิงคโปร์ก็ติดต่อกับทางโรงแรมได้เลยครับ ตอบไวมาก ๆ
ห้องน้ำที่นี่เป็นแบบปิดทึบครับ ไม่ได้เป็นกระจกใส see through แบบหลาย ๆ โรงแรม ฉะนั้นแล้วใครมาพักกับเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวก็สบายใจได้ครับ
เปิดเข้ามาด้านขวามือจะเป็นโถสุขภัณฑ์ สะอาดดี แต่ประเทศนี้ห้องน้ำจะไม่มีสายชำระแบบบ้านเรานะครับ
ตรงกลางของห้องน้ำเป็นอ่างล่างหน้าครับ พร้อมหมวกคลุมอาบน้ำ แก้วน้ำ สบู่เหลว แชมพู และคอนดิชั่นเนอร์เป็นหลอดเล็ก ๆ
ส่วนด้านซ้ายมีกระจกกั้นเป็นส่วนเปียกสำหรับการอาบน้ำด้วยฝักบัวครับ
อินเทอร์เน็ต Wi-Fi ที่นี่บริการฟรีทุกห้องพักครับ โดยเคลมไว้ว่าความเร็วสูงสุด 20 Mbps แต่การใช้งานจริงก็สามารถใช้งานได้ดีครับ แม้จะไม่ถึง 20 Mbps ก็ตาม โดยทางโรงแรมแจ้งว่าเราสามารถใช้งาน Wi-Fi ของโรงแรมได้ถึง 23.59 น. ของวันเช็คเอาท์เลยนะครับ แม้เราจะต้องเช็คเอาท์ตั้งแต่ 12.00 น. เผื่อใครจะนั่งเล่นอยู่ที่โรงแรมหลังจากเช็คเอาท์ไปแล้วก็ย่อมได้ครับ
อาหารเช้าที่นี่รับประทานได้ที่ห้องอาหารอยู่ด้านข้างล็อบบี้เลยครับ บรรยากาศสบาย ๆ คนไม่ค่อยเยอะครับ
ไลน์บุฟเฟ่ต์มีหลากหลายประมาณหนึ่ง แต่ไม่ได้หลากหลายมากครับ แต่ถ้าทานหลาย ๆ วันติดต่อกันก็อาจจะเบื่อได้ครับ ถ้าเข้าพักช่วงสั้น ๆ ไม่กี่วันก็โอเคเลยครับ
30 Bencoolen ถือเป็นอีกหนึ่งโรงแรมที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวในย่านใจกลางสิงคโปร์เป็นอย่างมากครับ ราคาอยู่ในระดับกลาง ๆ ห้องพักสะอาดและสะดวกสบาย Wi-Fi ใช้งานได้ดี และมีสมาร์ทโฟนให้เรายืมใช้งานได้ฟรีอีกด้วย พนักงานช่วยเหลือและบริการดีมาก สถานที่ตั้งสะดวกสบายใกล้ร้านสะดวกซื้อและ Food Republic เดินทางได้ด้วยรถไฟ MRT ถึง 2 สายเลยทีเดียวครับ
แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้า สวัสดีครับ